เมื่อพูดถึงคราบสกปรกบนที่นอน “คราบฉี่” ต้องเป็นคราบแรกที่คุณนึกถึงแน่นอน เพราะคราบฉี่บนที่นอน เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมากๆ สำหรับคุณแม่หรือบ้านไหนที่มีลูกน้อย ซึ่งการฉี่รดที่นอนเป็นเรื่องปกติทั่วไปของเด็กเล็ก แต่ถ้าหากเป็นเด็กโต ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องปกติ เหล่าคุณแม่ๆ ก็ต้องเริ่มหาวิธีแก้กันแล้วล่ะค่ะ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ จะส่งผลเสียทต่อคนรอบข้าง และตัวเด็กเองอีกด้วย
มีปัญหาได้ ก็ต้องมีวิธีแก้ด้วย วันนี้เราจึงมี วิธีกำจัดคราบฉี่บนที่นอน มาฝากคุณแม่บ้านที่มีลูกน้อย ปัสสาวะรดบนที่นอนบ่อย ด้วยวิธีง่ายๆ และยังมีวิธีกำจัด คราบฉี่ที่ฝังลึก ให้สะอาดเหมือนใหม่ พร้อม Tips ป้องกันการเกิดคราบสกปรกบนที่นอนง่ายๆ ทั้งหมดอยู่ในบทความนี้ที่เรานำฝากให้ทุกคน…
คราบฉี่ คราบที่มีเกือบทุกบ้าน
คราบฉี่ เป็นคราบที่เหล่าคุณแม่ๆ หรือแม่บ้านหลายๆ คนต้องประสบพบเจอ สร้างความเบื่อหน่ายในการทำความสะอาดที่นอนไปโดยปริยาย แต่ถึงจะเบื่อหน่ายยังไง เมื่อเกิดคราบฉี่คุณจำเป็นที่ต้องทำความสะอาดให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดคราบฝังลึก ฝังแน่นลงบนเบาะ หรือฟูกที่นอน เพราะถ้าหากฝังลึกลงบนฟูกแล้ว การทำความสะอาดเบื้องต้นง่ายๆ ก็ไม่สามารถช่วยคุณได้แน่นอน
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมก่อนทำความสะอาด
ก่อนจะเริ่มลงมือทำความสะอาด ให้เราเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้ครบเรียบร้อย เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาด และช่วยประหยัดเวลาตามลิสต์ข้างล่างนี้เลย
- เครื่องดูดฝุ่น
- น้ำเปล่า
- สบู่,น้ำยาล้างจาน
- เบกกิ้งโซดา
- ผ้าขนหนู
ขั้นตอนการกำจัดคราบฉี่ บนที่นอน
เมื่อคุณทำการเตรียมอุปกรณ์ เพื่อทำความสะอาดเเล้ว เรามาเริ่มทำความสะอาดที่นอนกันตาม 7 ขั้นตอน เหล่านี้กันเลยค่ะ…
1.ผสมน้ำยา
ให้เริ่มผสมน้ำยาที่ใช้ในการทำความสะอาดเป็นอันดับเเรก โดยแบ่งน้ำยาออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนที่ 1 : ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 1 ถ้วยตวง เบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำยาล้างจาน 2 หยด เเละส่วนที่ 2 : ผงซักฟอก 3 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
2.ดูดฝุ่น
เมื่อเตรียมน้ำยาเรียบร้อยเล้ว ให้เราทำการดูดฝุ่นบนฟูกที่นอนให้ทั่ว เพื่อดูดสิ่งสกปรก และเศษฝุ่นออกให้หมด
3.ฉีดน้ำยา
เริ่มฉีดน้ำยาที่เราได้ผสมไว้ในขั้นตอนเเรก แล้วทิ้งไว้สักพักจนแห้ง
4.ล้างคราบสกปรก
บนที่นอนด้วยน้ำยาส่วนที่ 1 ที่เราเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ ป้ายลงบนคราบเปื้อน แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง
5.ล้างน้ำยา
น้ำยาที่เราป้ายลงไปก่อนหน้านี้ ด้วยน้ำยาส่วนที่ 2 โดยป้ายน้ำยานี้ลงบนคราบ และอย่าให้เปียก แล้วทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นใช้ผ้าซับอีกครั้ง
6.โรยเบคกิ้งโซดา
เมื่อเสร็จขั้นตอนการใช้น้ำยาแล้ว บนฟูกจะหลงเหลือความชื่นอยู่ ให้เราเอาผงเบคกิ้งโซดา โรยให้ทั่วที่นอน ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นให้ใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดเอาสิ่งสกปรกออกไปให้หมด
ขั้นตอนการดับกลิ่นฉี่ ให้ได้ผล
จริงๆ แล้วจากขั้นตอนที่เราได้บอกไปก่อนหน้านี้ สามารถช่วยดับกลิ่นฉี่บนที่นอนได้อยู่แล้ว แต่ถ้าหากยังมีกลิ่นหลงเหลืออยู่ เราอาจจะใช้ น้ำยาทำความสะอาด หรือน้ำยาขจัดกลิ่น โดยฉีดสเปรย์กำจัดกลิ่นลงไป แล้วใช้พัดลมช่วยเป่า เพื่อให้กลิ่นหายไป และ อย่าลืมเปิดประตู-หน้าต่าง เพื่อให้กลิ่นอับสามารถระบายออกไปได้
คราบฉี่ คราบสกปรกฝังลึก ทำยังไง? ให้สะอาดที่สุด
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายบ้านคงได้ลองมาทุกวิธีแล้ว แต่คราบเหล่านั้นก็ไม่ยอมหายไปสักที อย่าพึ่งหมดหวังไป icleanbed เรามีบริการทำความสะอาดที่นอน กำจัดคราบฉี่ คราบประจำเดือน คราบกาแฟ คราบสกปรกทุกชนิด หรือคราบฝังลึกที่ทำความสะอาดยาก โดยทีมงานมืออาชีพ ประสบการณ์ยาวนาน เพื่อให้คุณมีที่นอนที่สะอาด หมดปัญหาเรื่องคราบสกปรก
Tips ป้องกันคราบฉี่ คราบสกปรกบนที่นอน
การดูแลที่นอนให้สะอาดอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะที่นอนเป็นที่ ๆ เราใช้ในการพักผ่อน นอนหลับเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง วันนี้เรามี Tips เล็กๆ น้อยๆ ที่คุณสามารถทำได้ง่าย เพื่อให้ที่นอนคุณสะอาดอยู่เสมอ
- หากเกิดคราบสกปรกแล้ว ให้ทำความสะอาดทันที เพื่อป้องกันไม่ให้คราบฝังลึกลงบนที่นอน ทำให้ทำความสะอาดยากขึ้น
- การใช้ผ้ารองกันเปื้อนอีกหนึ่งชั้น สามารถป้องกันคราบสกปรกต่างๆ คราบเปื้อน แถมยังทำความสะอาดง่ายกว่ามาก
- การนำที่นอนไปตากแดด เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ เพราะแสงแดดจะช่วยในการฆ่าเชื้อโรค และไรฝุ่นอันตราย และช่วยกำจัดกลิ่นต่างๆ ได้อีกด้วย โดยให้เรานำที่นอนไปตากแดดทุกๆ 6 เดือน (ยิ่งบ่อยก็จะยิ่งดี) และตากไว้ประมาณ 5-6 ชั่วโมงต่อครั้ง
- ทุกครั้งที่ต้องการทำความสะอาดที่นอน ให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นทุกครั้ง เพื่อให้เศษฝุ่นที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ถูกกำจัดไป ซึ่งควรทำเป็นประจำทุกเดือน ยิ่งบ้านไหนมีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ เครื่องดูดฝุ่นยิ่งจำเป็นมากๆ
สรุป
คราบฉี่ คราบปัสสาวะ หากคุณทิ้งไว้ ไม่ทำความสะอาดเป็นเวลานาน จะทำให้คราบเหล่านั้นฝังลึกลงไป ยิ่งทำให้ทำความสะอาดยากมากขึ้น ฉะนั้นเมื่อเกิดคราบ คุณควรรีบทำความสะอาดทันที เพื่อให้ที่นอนคุณสะอาด ปราศจากคราบสกปรกต่างๆ และเราหวังว่าข้อมูลขั้นตอนการทำความสะอาดเเบบเบื้องต้น ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ จะสามารถช่วยให้ที่นอนคุณสะอาด และปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ รวมไปถึง Tips เล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้ที่นอนของคุณสะอาดมากยิ่งขึ้น