ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับไรฝุ่น

ไรฝุ่น (Dust mite) เป็นแมลง 8 ขาที่มีขนาดเล็กมาก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า วางไข่ครั้งละ 20-50 ฟอง 3 สัปดาห์ต่อครั้ง ไรฝุ่นแต่ละตัวมีช่วงชีวิตประมาณ 2-4 เดือน โดยอาศัยปะปนอยู่กับฝุ่นตามพื้นบ้าน ที่นอน หมอน พรม และเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่มีฝุ่น ไรฝุ่นอยู่รอดได้ในทุกสภาพอากาศ แต่ชอบอาศัยในที่อบอุ่นและอับชื้นที่อุณหภูมิประมาณ 18.5-29 องศาเซลเซียสและมีความชื้นสัมพัทธ์มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ อาหารของไรฝุ่น คือ เศษผิวหนังและรังแคจากหนังศีรษะ จากนั้นจึงถ่ายมูลไว้บนสถานที่ที่อาศัยอยู่ เช่น บนเตียงหรือที่นอน ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของตัวไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่น

กำจัดไรฝุ่นไรฝุ่นในที่นอน

 

สถิติที่น่าตกใจเกี่ยวกับไรฝุ่น

  • ฝุ่นในบ้าน 1 กรัม อาจพบไรฝุ่นได้ถึง 500-1000 ตัว
  • ในที่นอน 1 หลัง อาจมีไรฝุ่นอาศัยอยู่มากถึง 2-3 ล้านตัว
  • มูลของไรฝุ่นสามารถฟุ้งกระจายได้ง่ายและลอยเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเราในขณะนอนหลับ

สาเหตุของอาการภูมิแพ้ไรฝุ่น

ไรฝุ่นเป็นสาเหตุให้เกิดอาการแพ้ได้เมื่อมีการสัมผัสตัวไรฝุ่นเองหรือหายใจเอาของเสียที่ถูกขับออกมาจากตัวไรฝุ่นเข้าไป ปกติระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารแปลกปลอมที่ผ่านเข้าสู่ร่างกายด้วยการผลิตแอนติบอดี้ (Antibody) ขึ้นมาเพื่อจดจำว่าสารดังกล่าวเป็นสิ่งแปลกปลอมในร่างกายและต้องถูกกำจัดออก เมื่อร่างกายเจอกับสิ่งแปลกปลอมชนิดนั้น ๆ อีกซึ่งร่างกายจดจำได้ ร่างกายก็จะปล่อยสารฮีสทามีนเพื่อต่อต้านสิ่งอปลกปลอมทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ต่าง ๆ ตามมา

อาการแพ้ไรฝุ่นอาจเกิดอาการต่อเนื่องทั้งปีจนกลายเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้หากไม่กำจัดต้นเหตุของปัญหาหรือก็คือไรฝุ่นและของเสียที่ถูกขับออกมานั่นเอง ทั้งนี้ก็เพราะของเสียที่ขับออกมาจากตัวไรฝุ่นที่ยังกระจายอยู่ในอากาศรอบ ๆ ตลอดเวลา การใช้ไม้กวาดทำความสะอาดบ้าน เดินบนพรม ขยับตัวบนเตียงนอนหรือโซฟา สะบัดผ้าปูที่นอน หรือแค่นั่งบนเก้าอี้นวม ก็จะทำให้อาการภูมิแพ้ขึ้นมาได้ทันที และหากหายใจเอาของเสียจากไรฝุ่นเข้าไปเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจทำให้อาการภูมิแพ้ยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ เกิดการอักเสบเรื้อรังจนกลายเป็นโรคหอบหืดได้

ไรฝุ่นกับภูมิแพ้ผิวหนัง

อาการภูมิแพ้และหอบหืดที่เกิดจากการสัมผัสไรฝุ่น

ไรฝุ่นเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของโรคภูมิแพ้ในปัจจุบัน และยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการของโรคหืดตามมาได้อีกด้วย อาการแพ้จากการสัมผัสไรฝุ่นมีตั้งแต่ระดับอ่อนไปจนถึงรุนแรง หากเป็นการแพ้ที่เกิดจากการอักเสบของทางเดินจมูกจะแสดงอาการต่าง ๆ เช่น มีการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล หรือคันจมูก ในเด็กอาจจะถูจมูกบ่อย ๆ เนื่องจากเกิดความระคายเคือง มีเสมหะ ไอ น้ำตาไหล คันตาหรือผิวหนัง ตาแดง หรือใต้ดวงตาบวมช้ำ

ส่วนอาการของโรคหอบหืดที่อาจเกิดขึ้นได้ตามมาหากสัมผัสกับไรฝุ่นเป็นประจำ ได้แก่ หายใจหอบเหนื่อย หายใจลำบาก ไอ  แน่นหน้าอก หายใจมีเสียงดัง อาการจะหนักขึ้นเมื่อเจอกับฝุ่นควัน ควันบุหรี่ สารเคมีต่าง ๆ หรือเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น

วิธีกำจัดไรฝุ่น ป้องกันภูมิแพ้

การกำจัดไรฝุ่นให้หมดไปจากบ้านเป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยาก แม้ว่าจะทำความสะอาดบ้านบ่อยก็ตาม เนื่องจากไรฝุ่นมีที่ให้ซุกซ่อนและเจริญเติบโตได้มากมาย แต่การลดจำนวนไรฝุ่นในบ้านลงก็สามารถช่วยลดอาการภูมิแพ้ให้น้อยลงหรือหายไปได้หากมีการกำจัดไรฝุ่นอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เราสามารถช่วยลดจำนวนไรฝุ่นในบ้านลงได้ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น

  • ทำความสะอาดเครื่องนอนทุกชิ้นเป็นประจำทุกสัปดาห์ด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส ขึ้นไป
  • ทำความสะอาดและเคลื่อนย้ายสิ่งของที่อาจเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาไรฝุ่น โดยเฉพาะพรม โซฟา และที่นอน ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยที่เหมาะสมของไรฝุ่น
  • ทำความสะอาดพื้นด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำถูพื้นเป็นประจำ ไม่ควรกวาดแห้งเพียงอย่างเดียว
  • ทำความสะอาดพรมและเครื่องใช้ที่บุนวมด้วยการดูดฝุ่นเป็นประจำ ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง 2 ชั้นหรือชนิดที่กรองอนุภาคต่าง ๆ แบบมีประสิทธิภาพสูง (High-Efficiency Particulate Air หรือ HEPA  Filter) สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าแต่จะมีราคาค่อนข้างสูงมาก

กำจัดไรฝุ่นที่นอน ตรวจเช็คไรฝุ่น

  • เลือกใช้บริการกำจัดไรฝุ่นจากบริษัทที่ได้รับมาตรฐานและผ่านการรับรองจากศูนย์วิจัยไรฝุ่น เพื่อความสะดวกและมั่นใจได้ในความสะอาดของห้องนอน เช่น iCleanbed เป็นผู้นำด้านการทำความสะอาดที่นอนและโซฟา icleanbed ได้รับการรับรองจากศูนย์วิจัยไรฝุ่นที่เดียวในประเทศไทยและองค์กรชั้นนำระดับโลก เช่น AHAM, CRI, AAFA ว่าสามารถกำจัดไรฝุ่นด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงเพื่อลดสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 100% ทีมงานมืออาชีพจะทำงานอย่างมีระบบขั้นตอนเพื่อให้ห้องนอนของคุณสะอาดและปราศจากไรฝุ่นอย่างหมดจด โดยมีขั้นตอนการทำความสะอาดดังนี้
ตรวจไรฝุ่น1. Dust testing: ทีมงานจะเริ่มจากการทดสอบปริมาณฝุ่นบนที่นอน โซฟา  และพรม เพื่อประเมินความสกปรกในเบื้องต้นและใช้เป็นข้อมูลกับลูกค้าเพื่อให้ทราบความสะอาดโดยรวมของห้องนอน
เครื่อง UVC กำจัดไรฝุ่น2. Applying UVC: จากนั้นจึงทำการฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสีอัลตราไวโอเลตชนิดซี (UVC) ซึ่งได้รับการทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพดีในการฆ่าไข่ไรฝุ่น ไรฝุ่น เชื้อโรคต่าง ๆ ไวรัส แบคทีเรีย รวมถึงเชื้อราที่อาศัยอยู่บนโซฟาและที่นอน
กำจัดไรฝุ่น3. Deep Cleaning: เริ่มทำความสะอาดและกำจัดเศษซากไรฝุ่น รวมถึงของเสียต่าง ๆ จากไรฝุ่นที่หลงเหลืออยู่บนโซฟา ที่นอน โดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัยและดีที่สุด ณ เวลานี้
4. Double Cleaning: ทำความสะอาดซ้ำอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าโซฟาและที่นอนของคุณจะสะอาด 100% เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ ลูกน้อย และครอบครัว
5. Air Purifying: ฟอกอากาศและฆ่าเชื้อโรคในอากาศ เพื่อให้อากาศในห้องสดชื่น

ทีมงาน iCleanbed

เห็นข้อดีของการกำจัดไรฝุ่นอย่างนี้แล้ว หันมาทำความสะอาดที่นอนกันเถอะ เพราะสุขภาพของคุณและลูก ๆ รอไม่ได้…. ทีมงาน iCleanbed ยินดีให้คำปรึกษาและบริการคุณอย่างห่วงใย