ทาสแมวควรรู้ อาการแพ้ขนแมว อาการไหนที่ต้องระวัง ? พร้อมวิธีแก้ปัญหา

2.1 อาการทางผิวหนัง

อาการที่แพ้ขนแมวหายได้ไหม ? ถ้ามีอาการแสดงแค่ทางผิวหนังเล็กน้อย เช่นมีผื่นเล็ก ๆ ขึ้น โดยไม่มีความผิดปกติของระบบอื่น ก็อาจมีโอกาสที่จะดีขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ต้องดูแลความสะอาดอย่างเคร่งครัด และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญร่วมด้วย

2.2 อาการทางตา

ที่มา : www.msdmanuals.com

อาการคันตา, เยื่อบุตาขาวบวม, ตาแดง, หนังตาบวม เป็นอาการแสดงในกลุ่มแพ้ขนแมวที่พบได้ หากมีอาการแพ้ตอนอยู่ในที่พัก อาจหยอดยาแล้วพักสายตาได้ แต่ถ้าเกิดอาการระหว่างเดินทาง ขับรถ หรือทำงานที่ต้องใช้สายตา ก็อาจก่อปัญหาได้เช่นกัน

2.3 อาการระบบทางเดินหายใจ

อาการแพ้ของระบบทางเดินหายใจ มีตั้งแต่ระดับเล็กน้อย เช่น จามบ่อย, ไอแห้ง, คัดจมูก, น้ำมูกไหล ไปจนถึงอาการแน่นหน้าอก, หายใจมีเสียงวี้ด, หายใจลำบาก, หอบเหนื่อย หรือหอบหืดกำเริบได้เลย ต้องคอยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ร่วมกับพยายามกำจัดขนแมว และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุดด้วย

2.4 อาการแพ้อย่างรุนแรง

อาการแพ้อย่างรุนแรง หรืออนาฟัยแลกซิส (Anaphylaxis) เป็นอาการแพ้เฉียบพลัน ที่เกิดกับร่างกายพร้อมกันมากกว่า 1 ระบบ ตัวอย่างเช่น ระบบหัวใจและหลอดเลือดผิดปกติ โดยมีอาการช็อก ความดันโลหิตต่ำ ร่วมกับหอบเหนื่อย แน่นหน้าอก มีผื่นลมพิษขึ้นตามตัว โดยมีอาการคลื่นไส้อาเจียน และท้องเสียร่วมด้วย หากมีอาการในลักษณะนี้ ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน ที่ต้องนำส่งโรงพยาบาลทันที ไม่อย่างนั้นอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

การดูแลตัวเอง

• ทดสอบอาการแพ้
  เพื่อให้แน่ใจว่า อาการของคุณที่กำลังแพ้ขนแมวหายได้ไหม จึงควรทดสอบด้วยการตรวจทางผิวหนัง (Skin Prick Test) หรือตรวจเลือดให้มั่นใจก่อน จะได้แก้ไขอย่างถูกต้อง
  
• รักษาด้วยยา
  การรักษาด้วยยาแก้แพ้, ยาลดน้ำมูก, ยาแก้คัดจมูก, ยาแก้ไอ หรือทาสเตียรอยด์ เป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ ที่จะช่วยได้ในระยะสั้นเท่านั้น
  
• ฉีดวัคซีนภูมิแพ้
  วัคซีนภูมิแพ้ เป็นวิธีแก้อาการแพ้ขนแมว ซึ่งเหมาะสำหรับทาสแมว ที่ต้องการจะเลี้ยงแมวต่อไปแม้จะมีอาการแพ้ โดยใช้เวลารักษาประมาณ 3 – 5 ปี

• เลือกอาหารพิเศษ
  มีอาหารแมวสูตรพิเศษ ที่เพิ่มสารอาหาร ที่ออกฤทธิ์ยับยั้งโปรตีน Fel d1 ซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ในตัวแมวได้เกือบ 50% เมื่อให้แมวทานเพียง 3 สัปดาห์
  
• อาบน้ำแมวเป็นประจำ
  หมั่นอาบน้ำแมวสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง เพื่อกำจัดโปรตีนในน้ำลาย ที่เจ้าเหมียวเลียไว้ทั่วตัวร่วมกับแปรงขน เพื่อกำจัดขนแมวอย่างสม่ำเสมอด้วย
  
• ดูแลกระบะทรายแมว
  ถ้าเป็นไปได้ ให้นำกระบะฉี่แมวผึ่งแดดทุกวัน ร่วมกับเปลี่ยนทรายแมวเดือนละครั้ง เพื่อลดการสะสมของสารก่อภูมิแพ้

แบ่งโซนเลี้ยงแมว
หากทาสแมว มีอาการแพ้ขนแมว แต่ต้องการเลี้ยงน้องต่อไป ก็ควรลดความเสี่ยงด้วยการแบ่งพื้นที่ให้แมวอยู่อย่างชัดเจน

ใช้เครื่องฟอกอากาศ
เลือกใช้เครื่องฟอกอากาศที่มี HEPA Filter ซึ่งจะช่วยกำจัดขนสัตว์ รังแคแมว และสิ่งสกปรกตกค้างได้

ทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ

หนึ่งในวิธีแก้อาการแพ้ขนแมวที่ทำได้ง่าย คือการทำความสะอาดบ้าน กำจัดขนน้องแมว ดูดฝุ่น เช็ดถูเป็นประจำ แต่การดูแลด้วยอุปกรณ์ทั่วไป จะไม่สามารถกำจัด เชื้อโรค ไรฝุ่น หรือเศษผิวหนังแมวขนาดเล็กได้ ดังนั้นการทำความสะอาดกับมืออาชีพอย่าง iCleanbed จึงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่า สามารถกำจัดขนแมว ไรฝุ่น เชื้อโรค และสิ่งสกปรกได้อย่างลึกล้ำ ทำความสะอาดที่นอน และเฟอร์นิเจอร์ด้วยอุปกรณ์มาตรฐานสากล พร้อมฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี ช่วยลดสิ่งกระตุ้นอาการแพ้ได้แน่นอน